การละเมิดทางอินเทอร์เน็ตในที่ทำงาน

อินเทอร์เน็ตกลายเป็นทรัพยากรอันล้ำค่าในที่ทำงานห้องสมุดอ้างอิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกศูนย์โซเชียลมีเดียและร้านสื่อลามกอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่คลิก ความพร้อมใช้งานเติมเน็ตทรูนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับความรับผิดของนายจ้างและทำให้นายจ้างต้องเสียเวลาหลายพันชั่วโมงในการผลิตในแต่ละวัน การตรวจสอบการใช้อินเทอร์เน็ตของพนักงานเป็นวิธีหนึ่งในการลดความรับผิดของนายจ้างและไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยกับหลักการที่อยู่เบื้องหลังการตรวจสอบอินเทอร์เน็ตนายจ้างหลายคนยอมรับว่ามันเป็นสิ่งชั่วร้ายที่จำเป็นหรือไม่

ผู้ละเมิดทางอินเทอร์เน็ตมีตั้งแต่พนักงานระดับสูงในสำนักงานเติมเน็ตทรู ไม่ลดสปีดส่วนตัวที่ดูภาพอนาจารแบบฮาร์ดคอร์ไปจนถึงผู้ช่วยแผนกในห้องเล็ก ๆ ที่ใช้เวลา 3 ชั่วโมงต่อวันในการซื้อของออนไลน์จัดเตรียมการเดินทางและชำระค่าใช้จ่ายผ่านอินเทอร์เน็ตของ บริษัท การละเมิดทางอินเทอร์เน็ตเป็นโรคเฉพาะถิ่นในสถานที่ทำงานและองค์กรต่างๆกำลังถูกบังคับให้เผชิญกับปัญหาหรือได้รับผลที่ตามมา

ผลที่ตามมามากมายของการละเมิดอินเทอร์เน็ตคือการสูญเสียผลิตภาพและคะแนนของปัญหาการฟ้องร้องเช่นการล่วงละเมิดทางเพศสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตรและการเลือกปฏิบัติ การตรวจสอบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของพนักงานเป็นวิธีหนึ่งที่องค์กรสามารถจำกัดความรับผิดได้

การกำหนดการละเมิดทางอินเทอร์เน็ต

การกำหนดการละเมิดทางอินเทอร์เน็ตเป็นความท้าทายประการแรกและการสร้างนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ (AUP) ขององค์กรเป็นขั้นตอนแรกในคำจำกัดความ AUP กำหนดสิ่งที่ก่อให้เกิดการละเมิดอินเทอร์เน็ตในองค์กรของคุณ พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตที่ยอมรับได้ในองค์กรหนึ่งอาจเติมเน็ตทรู ไม่ลดสปีดสามารถยอมรับได้ในอีกองค์กรหนึ่งดังนั้น AUP จึงเป็นนโยบายที่กำหนดเองได้ตามพันธกิจขององค์กร องค์กรกำหนดว่าจะลากเส้นอะไรเมื่อพูดถึงการละเมิดอินเทอร์เน็ต